วันหนึ่งในฤดูหนาว สมัยที่คุณเป็นนักเรียนมัธยม หิมะกำลังตก คุณกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างจนลืมสิ่งอื่น คุณได้ยินเสียงพระเจ้าในตัวคุณ และคุณก็พยายามจะลืมพระองค์ให้ได้ คุณเห็นว่าโลกนี้เป็นหนึ่งเดียว แต่คุณคิดว่าถ้าสามารถหลับตาลงไม่มองภาพนี้ คุณจะเศร้าหมองได้มากกว่าและมีสติปัญญาล้ำเลิศกว่าด้วย ซึ่งคุณก็คิดถูกแล้ว มีแต่คนที่ฉลาดมากๆ หม่นหมองมากๆ เท่านั้นที่จะเขียนบทกวีได้ดี ดังนั้นคุณจึงยืดอกอย่างหาญกล้าและแบกรับความเจ็บปวดของการไร้ศรัทธา เพียงเพื่อจะได้เขียนบทกวีดีๆ แต่หารู้ไม่ว่าเมื่อคุณสูญเสียเสียงข้างในที่ว่านั้นไป สุดท้ายคุณจะลงเอยอย่างโดดเดี่ยวในจักรวาลอันว่างเปล่า
วันหนึ่งในฤดูหนาว สมัยที่คุณเป็นนักเรียนมัธยม หิมะกำลังตก คุณกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างจนลืมสิ่งอื่น คุณได้ยินเสียงพระเจ้าในตัวคุณ และคุณก็พยายามจะลืมพระองค์ให้ได้ คุณเห็นว่าโลกนี้เป็นหนึ่งเดียว แต่คุณคิดว่าถ้าสามารถหลับตาลงไม่มองภาพนี้ คุณจะเศร้าหมองได้มากกว่าและมีสติปัญญาล้ำเลิศกว่าด้วย ซึ่งคุณก็คิดถูกแล้ว มีแต่คนที่ฉลาดมากๆ หม่นหมองมากๆ เท่านั้นที่จะเขียนบทกวีได้ดี ดังนั้นคุณจึงยืดอกอย่างหาญกล้าและแบกรับความเจ็บปวดของการไร้ศรัทธา เพียงเพื่อจะได้เขียนบทกวีดีๆ แต่หารู้ไม่ว่าเมื่อคุณสูญเสียเสียงข้างในที่ว่านั้นไป สุดท้ายคุณจะลงเอยอย่างโดดเดี่ยวในจักรวาลอันว่างเปล่า